กระบวนการทำกะละเเมทูลใจ
ส่วนผสมที่ใช้ทำกาละแมสูตรโบราณ
1) กะทิสด หัวกะทิมะพร้าวช่วยให้เนื้อขนมเนียนเนื้อมันนุ่มและช่วยให้ไม่ติดกระทะ
2) น้ำตาลปิ๊บ ที่ได้มาจากน้ำตาลโตนดและน้ำตาลมะพร้าวเป็นหลัก
3) แป้งข้าวเหนียวทำมาจากข้าวเหนียวโม่หรือบดเป็นแป้งแห้งป่นละเอียด บรรจุในถุงพลาสติก
4) แป้งท้าว (แป้งหยาบ)
5) น้ำอ้อยดำป่นเพิ่มความมัน และกลิ่นหอม
6) แบะแซทำขนม แบะแซ คือ แป้งที่นำมาผ่านกระบวนการหมักจนกลายเป็นน้ำตาล
กลูโคส ลักษณะใส เหนียวและมีรสหวาน
ภาพวัตถุดิบที่ใช้ทำกาละแมสูตรโบราณ
|
ภาพที่ 1 กะทิสด
|
|
ภาพที่ 2 น้ำตาลปิ๊บ |
ภาพที่ 3 แป้งท้าว (แป้งหยาบ)
|
ภาพที่ 3 แป้งท้าว (แป้งหยาบ)
|
|
ภาพที่ 4 แป้งข้าวเหนียวภาพที่ 4 แป้งข้าวเหนียว
ภาพที่ 5 น้ำอ้อยป่นดำ |
|
ภาพที่ 7 เริ่มใกล้ได้ที่เเล้ว |
ส่วนปริมาณของส่วนผสมในการทำกาละแมสูตรโบราณต่อ1ครั้งโดยประมาณจะใช้
กะทิสด4 กิโลกรัม ,น้ำตาลปิ๊บ1 กิโลกรัม ,แป้งข้าวเหนียว500 กรัม , แป้งท้าว(แป้งหยาบ) 500 กรัม ,
น้ำอ้อย 500 กรัม ,แบะแซทำขนม 1 กิโลกรัม
วิธีทำกาละแมสูตรโบราณ
1. กะทิสำหรับทำขี้โล้ นำมาเคี่ยวจนได้เป็นน้ำมันขี้โล้ เพื่อเอาไว้ทาถาด
2. ผสมน้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ น้ำใบเตยเข้าด้วยกัน นำมากรองด้วยผ้าขาวบาง
3. ผสมแป้งเท้ายายม่อมกับแป้งข้าวเหนียวเข้าด้วยกัน ผสมกับส่วนผสมในข้อ 2 นวดให้เข้ากัน
เติมน้ำปูนใส
4. เทส่วนผสมที่ได้ลงในกระทะทองเหลืองกวนจนล่อนออกจากกระทะเป็นก้อน
5. เทส่วนผสมที่ได้ลงในถาดที่ทาด้วยน้ำมันขี้โล้ ทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นตัดเป็นชิ้นเล็ก
6. นำมาห่อด้วยใบตองที่ล้างสะอาดเรียบร้อยเเล้ว
|
ภาพที่ 8 กาละเเมที่ตัดเเล้ว |
|
ภาพที่ 9 ใบตองที่ใช้ในการห่อ |
|
ภาพที่ 10 เสร็จเเล้ว |
กาละแมใช้ได้ทั้งน้ำตาลทรายขาวและน้ำตาลปึก ถ้าใช้น้ำตาล ปึก จะให้กลิ่นหอมกว่า
กาละแมเม็ด
ใช้ข้าวสารเหนียวกวนแทน แป้ง โดยต้มข้าวเหนียวกับน้ำ 3 ถ้วยจนข้าวเหนียวสุกดีแล้ว
จึงใส่ เครื่อง
ปรุงอื่นลงไปกวนด้วยจนแห้ง
ถ้าจะห่อด้วยใบตองรัด ให้เจียนตองรีดแผ่นกว้างประมาณ 4 เซนติเมตร ให้หัวท้ายเรียว
ตัดกาละแมเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สัก 1 คูณ 1 คูณ 1 เซนติเมตร แล้วห่อเป็นคำ ๆ
กลัดด้วยไม้กลัดแหลม
ตามขนาด
กลเม็ดเคล็ดลับ
กาละแมเนื้อควรเนียนสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม อยู่ตัวเป็นก้อน หรือแท่งตามรอยตัด
เนื้อควรนุ่มเหนียวแต่ไม่ควรเหนียวเหนอะ รสหวานมัน หอมกลิ่นน้ำตาลไหม้เล็กน้อย
ขอบคุณข้อมูลและภาพ กาละแมสูตรทูลใจสุดยอดของฝากจากจังหวัดนครพนม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น